รับรู้กันดีว่าการนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้เรามีพลังมากขึ้นในระหว่างวัน นอกเหนือจากการควบคุมเรื่องอาหารการกินและการออกกำลังกาย กระนั้น ก็ยังมีประโยชน์อีกมากมายที่หลายคนไม่รู้และคาดไม่ถึงว่า การได้พักผ่อนนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงในทุกๆคืนนั้น จะส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างไร ชนิดที่ว่าเรื่องบางเรื่องน่าจะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากทีเดียว
ช่วยลดน้ำหนัก
มีผลการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการนอนหลับและการลดน้ำหนัก ซึ่งนักวิจัยหลายท่านพบว่าการนอนหลับอย่างเพียงพอ เป็นตัวแปรสำคัญช่วยให้น้ำหนักลดลง ในทางกลับกัน หากนอนหลับน้อยเกินไปก็จะไม่ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก
การศึกษาเรื่องนี้ที่ตีพิมพ์ใน วารสารทางการแพทย์ (Annals of Internal Medicine) ระบุว่า ผู้ที่กำลังควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ได้ถูกกำหนดตารางการนอนที่แตกต่างกันไป โดยในกลุ่มผู้ที่นอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้จำนวนไขมันหายไปเป็นครึ่งหนึ่ง แม้ว่าจะทานอาหารชนิดเดียวกันก็ตาม ส่วนคนที่นอนหลับไม่เพียงพอจะรู้สึกหิวโหย หงุดหงิดง่าย และขาดพลังงานในเวลาออกกำลังกาย การศึกษาสรุปได้ว่า ผู้ที่ควบคุมอาหารแต่พักผ่อนไม่เพียงพอ โอกาสของการลดน้ำหนักจะน้อยกว่าผู้ที่พักผ่อนเพียงพอถึงร้อยละ 55
การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งใน วารสารโภชนศาสตร์คลินิกอเมริกา (American Journal of Clinical Nutrition) พบว่า เมื่อได้นอนหลับเพียงพอ จะทำให้ทานอาหารลดลงเฉลี่ยประมาณ 300 แคลลอรี่ต่อวัน
การนอนหลับอย่างเพียงพอตามจำนวน 7-9 ชั่วโมงดังข้างต้น จะทำให้ไม่รู้สึกอยากทานอาหารว่างในช่วงดึก ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน และจะช่วยให้ตัดสินใจเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
ป้องกันการเจ็บป่วย
การนอนหลับยังสัมพันธ์ต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยตรง เพราะในเวลาที่เรานอนร่างกายจะผลิต ที-เซลล์ (T-cells) เซลล์เม็ดเลือดขาวที่จะคอยต่อสู้กับไวรัสและแบคทีเรีย อันส่งผลต่อความเจ็บไข้ได้ป่วย หากพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะทำให้เราติดเชื้อไวรัสหรือป่วยได้ง่าย ทั้งยังจะฟื้นไข้ได้ช้าอีกต่างหาก
ขณะเดียวกัน การพึ่งพาโปรตีนหลังการออกกำลังกาย ก็ใช่ว่าจะเป็นการเต็มเติมที่สมบูรณ์ การนอนหลับที่เพียงพอต่างหาก จะเป็นสิ่งดีที่สุดต่อการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ เพราะในระหว่างที่เราพักผ่อนร่างกายจะสังเคราะห์โปรตีนและปล่อยฮอร์โมน ที่ช่วยในการปรับสภาพและฟื้นฟูกล้ามเนื้อเองตามธรรมชาติ
ช่วยให้อารมณ์เบิกบาน
การอดหลับอดนอน อาจทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด งุ่นง่าน อารมณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก ไม่สดชื่น เบิกบาน ซึ่งอาการลักษณะนี้จะติดตัวไปทั้งวันก็ว่าได้
ดังที่ ดร . โยเซฟ เครนิน หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของ SoClean บริษัท ผลิตเครื่องแก้อาการนอนกรน CPAP และผู้ก่อตั้ง Singular Sleep กล่าวว่า “การนอนหลับไม่เพียงพอ นอกจากจะทำให้สุขภาพย่ำแย่แล้ว ยังสัมพันธ์กับความผิดปกติของอารมณ์ จะรู้สึกทั้งหดหู่และหงุดหงิด ประการสำคัญยังมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์สองขั้ว ได้ในระยะยาว”
เพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์
เคยสังเกตหรือไม่ในเวลาที่เราอดนอน จึงไม่สามารถที่จะเขียนอะไรได้ นอกจากร่างกายจะอ่อนล้าแล้ว สมองมันยังตื้อตันคิดอะไรไม่ออก การรักษาที่ดีที่สุดก็คือการนอนหลับ สอดคล้องกับผลการศึกษาในปี 2010 นักวิทยาศาสตร์พบว่า ช่วงเวลาครึ่งแรกของคืน ราว 3-4 ชั่วโมงนั้น สมองจะได้รับการซ่อมแซมและสังเคราะห์ข้อมูลใหม่ขึ้นโดยอัตโนมัติ ในลักษณะคลื่นสั้นๆ และเมื่อตื่นนอนจึงทำให้เรารู้สึกสดชื่น มีพลังวังชา ช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
ช่วยลดความดันโลหิต
การนอนหลับยังช่วยในการปรับสมดุลของร่างกาย สามารถควบคุมและย่อยสลายฮอร์โมนความเครียดส่วนเกินได้ ดังนี้แล้วเมื่อเราพักผ่อนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนความเครียดจะยังคงไม่ลดระดับลง ทั้งยังจะแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เพราะหลอดเลือดแดงแคบและหดตัว ทำให้ตกอยู่ในภาวะความดันโลหิตสูงได้ง่าย
ซ่อมแซมหน่วยความจำที่สึกหรอ
การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่นอนหลับมากพอจะตอบสนองได้ดีมากกว่าคนที่นอนหลับไม่เพียงพอ จากผลการทดสอบความรู้ความเข้าใจ
ทั้งนี้ หน่วยความจำของคนเรา 3 ระดับ ประกอบด้วย การได้มา การรวบรวม และการเรียกคืน ซึ่งการประมวลผลของสมองจะเกิดขึ้นระหว่างการหลับใหล ผ่านการเชื่อมต่อเส้นประสาทความทรงจำของเรา หากรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะกลายเป็นคนขี้หลงขี้ลืม สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการพักผ่อนนอนหลับน้อยเกินไป
เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
ดร. เครนิน ค้นพบทางการแพทย์ว่า ผู้ที่เป็น โรคนอนหยุดหายใจชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea : OSA) ที่ต้องใช้เครื่องแก้นอนกรน หรือ CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) เป็นประจำนั้น จะช่วยให้การมีเพศสัมพันธ์ดีกว่าผู้ที่เป็นโรค OSA แต่ไม่ใช้ CPAP ซึ่งสองสิ่งนี้จะสัมพันธ์กัน ก่อให้เกิดความผิดปกติในผู้ชาย
กล่าวโดยสรุป ก็คือ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ชีวิตสดใส มีคุณภาพยิ่งขึ้นนั่นเอง
ที่มา : coophomegoods.com